หนังสือ มาใช้ชีวิตในแบบของเรา Design Yes Life That You Love

คุณสมบัติสินค้า:

คู่มือการออกแบบชีวิต เพื่อค้นหาเส้นทางชีวิต ที่ใช่และดีที่สุดด้วยตัวเอง มาออกแบบชีวิตที่เราอยากใช้กันเถอะ (Design “YES” Life that You Love)

หมวดหมู่ : หนังสือ(Book)

Share

คำนำผู้เขียน


ฉันชอบการเขียนมาตั้งแต่เป็นเด็ก แต่ไม่เคยคิดจะเขียนหนังสือ เพราะเคยเชื่อว่าคนที่เขียนหนังสือได้ต้องเป็นนักเขียนเท่านั้น ฉันจึงไม่มีความคิดที่จะเขียนหนังสือเลย เช้าวันหนึ่งก่อนเข้าปีใหม่ 2565 ขณะที่ฉันกำลังทบทวนเป้าหมายสำหรับปีหน้า ฉันได้ยินเสียงในหัวดังขึ้นมาว่า “ทำหนังสือดีมั้ย” ... ฉันฟังเสียงนั้นแล้วลงมือทำทันที โดยตั้งไว้เป็นเป้าหมายว่าจะมีหนังสือ 1 เล่มตอนสิ้นปี ฉันเขียนเป้าหมายไปตามเสียงของหัวใจ ทั้ง ๆ ที่ไม่รู้เลยว่าจะเริ่มอย่างไร

เมื่อฉันเขียนเป้าหมายลงไปแล้วอ่านทวนอีกรอบ ใจของฉันเต้นรัวมาก รู้สึกว่าสิ่งนี้แหละคือสิ่งที่ฉันอยากทำจริง ๆ ฉันเริ่มต้นจากสิ่งที่ตัวเองทำได้ และสิ่งที่ฉันมีอยู่แล้ว เป็นคุณค่าที่ฉันอยากแบ่งปันเพื่อประโยชน์กับผู้คน ฉันเริ่มคิดภาพหนังสือในหัว ภาพที่เห็นคือหนังสือ 7 เล่ม ภาพนั้นชัดเจนมากขนาดที่ว่าแต่ละเล่มนั้นปกเป็นสีอะไร ฉันจะบอกเล่าเกี่ยวกับอะไร เห็นไปถึง Box Set เมื่อฉันเขียนครบทั้งหมด ฉันจึงลงมือเขียนเล่มแรกทันที ก็คือเล่มที่คุณกำลังถืออยู่นี้ และแล้วเส้นทางสู่การทำหนังสือก็ค่อย ๆ ปรากฏให้เห็นทีละนิด

การเขียนหนังสือ คือเส้นทางหนึ่งที่พาฉันไปสู่ชีวิตที่ฉันอยากใช้ เป็นผลจากที่ฉันลงมือออกแบบชีวิตและเส้นทางของตัวเอง และเปลี่ยนฉันจากคนที่ใช้ชีวิตไปตามเส้นทางที่คนอื่นกำหนด คนธรรมดาที่มีชีวิตแสนธรรมดา มาเป็นคนธรรมดาเช่นเดิมแต่มีชีวิตที่พิเศษได้ ฉันแบ่งปันสิ่งที่ฉันได้ใช้กับตัวเองและกลั่นออกมาเป็นตัวหนังสือในหนังสือเล่มนี้ และฉันรู้ว่า คุณจะได้ประโยชน์จากสิ่งที่ฉันแบ่งปันในหนังสือไม่มากก็น้อย ถ้าเป็นไปได้ สิ่งที่ฉันหวังมากที่สุดคือ คุณจะสามารถออกแบบและมีชีวิตที่มีความสุขในแบบของคุณเช่นเดียวกัน “เพราะคุณคือของขวัญที่แสนพิเศษและไม่ซ้ำใครบนโลกนี้ คุณจึงมีชีวิตที่แสนพิเศษได้เช่นกัน”

หนังสือเล่มนี้แบ่งเป็น 4 ส่วน แต่ละส่วนจะมีบทย่อย ๆ ในแต่ละบทจะเป็นการแบ่งปันประสบการณ์ของตัวฉันเองเล่าไปทีละขั้นตอน ส่วนท้ายจะเป็นการสรุปบทเรียนที่ฉันได้รับจากแต่ละเรื่อง เป็นทางลัดให้สำหรับคนที่ไม่มีเวลาอ่าน ในท้ายบทจะเป็นตัวอย่างคำถามที่ฉันใช้กับตัวเอง ตั้งแต่การสำรวจชีวิตที่ฉันอยากใช้ ไปจนถึงการออกแบบเส้นทางชีวิต และการเริ่มออกเดินทางบนเส้นทางที่ฉันออกแบบเพื่อไปสู่ชีวิตที่อยากจะได้ ฉันคิดว่า คุณที่กำลังอ่านอยู่จะได้ประโยชน์ในแง่มุมที่ต่างกันไปไม่มากก็น้อย

noknoi

.................................................


สารบัญ

บทนำ : เราทุกคนต่างก็มีชีวิตเป็นครั้งแรกด้วยกันทั้งนั้น (At First Life)
Part 1 : ฉันกำลังใช้ชีวิตของใคร (Who Rules the Life) 
1. ฉันกำลังใช้ชีวิตของใคร
2. ความเชื่อที่ไม่น่าเชื่อ ความไม่น่าเชื่อที่น่าเชื่อ
3. ชีวิตเป็นของฉัน
4. เดินต่อไปอย่างไร ถ้าในใจมันยังสั่น

Part 2 : ชีวิตแบบไหนที่ใช่ฉัน (Which Life is “YES” for Me)
1. เชื่อแบบไหนดี
2. อะไรคือสิ่งที่สำคัญ
3. ความสุขของฉันเป็นแบบไหน
4. ฉันเป็นแบบไหน ชีวิตฉันก็เป็นแบบนั้น

Part 3 : มาออกแบบชีวิตที่เราอยากใช้กันเถอะ (Design “YES” Life that You Love)
1. เกมรูเล็ตต์กับเกมปาเป้า
2. ปักหมุด ณ จุดที่จะไป
3. My Google Map  (แม่นเวอร์)

Part 4 : ชีวิตที่กลมกล่อม (Wholeness of Life)
1. รับรู้คุณค่า พัฒนาตนเอง และการปล่อยมือจากอดีต
2. การผัดวันประกันพรุ่ง ความรู้สึกผิด และการลงมือทำ
3. ความล้มเหลว การลุกขึ้นใหม่ และการประสบความสำเร็จ
4. มาสร้างสรรค์ชีวิตที่กลมกล่อมด้วยมือเรากันเถอะ
บทสรุป : ชีวิตพริวิเลจของคนธรรมดา (Privilege Life of Ordinary People)

.................................................


ตัวอย่างเนื้อหาบางส่วน

บทนำ เราทุกคนต่างก็มีชีวิตเป็นครั้งแรกด้วยกันทั้งนั้น (At First Life)

คุณเริ่มตั้งคำถามเกี่ยวกับชีวิตของตัวเองกันตอนไหน ถ้าถามฉัน ฉันเป็นคนช่างสงสัยเกี่ยวกับตัวเอง มีคำถามเกี่ยวกับตัวเองบ่อย ๆ หนึ่งในนั้นคือความสงสัยว่า “ชีวิตฉันจะไปทางไหน” คำถามนี้ผุดขึ้นมาตอนที่ฉันกำลังจะจบชั้นปีที่ 4 ตอนที่กำลังจะเปลี่ยนจากชีวิตนักเรียนนักศึกษาตลอด 12 ปี ไปสู่การทำงาน หรือเรียกว่าไปสู่การใช้ชีวิตจริง ๆ ฉันก็ตอบไม่ได้ และไม่รู้ว่าควรจะเริ่มจากเส้นทางไหน ไม่รู้ด้วยซ้ำว่าสำหรับฉันแล้วมีกี่เส้นทางให้เลือก ... เพราะฉันในตอนนั้นไม่เคยมีเป้าหมายที่อยากไปให้ถึง หลายปีที่ผ่านมา จากการพูดคุยกับหลาย ๆ คน หลาย ๆ วัย ทั้งในการทำงานประจำ (ฉันเป็น HR เผื่อผู้อ่านอยากจะรู้) และการทำงานโค้ช ก็เคยพบเจอกับเหตุการณ์คล้าย ๆ กัน ฉันเดาได้ว่า หลายคนที่กำลังอ่านหนังสือเล่มนี้อยู่ก็อาจเหมือนกับฉันในตอนนั้น

ฉันเองก็ไม่รู้วิธีการหาคำตอบและไม่คิดจะหาด้วย เพราะตอนนั้นสิ่งสำคัญสำหรับฉันไม่ใช่ความฝัน แต่คือการหาเงินเพื่อเลี้ยงตัวเองและครอบครัว ฉันจึงใช้เส้นทางตามที่คนส่วนใหญ่เดินไป คือ สมัครงานอะไรก็ได้ที่รับฉัน พอได้งานก็ทำงานอะไรก็ได้ที่ให้ฉันทำ และทุ่มเทกับงานตรงหน้าอย่างเต็มที่เพื่อพิสูจน์ว่าฉันเจ๋งพอที่จะทำ แล้วก็เป็นอย่างนั้นจริง ๆ ฉันเลยบอกตัวเองว่า “เฮ้ย มันได้ผลแฮะ” “นี่แหละ สิ่งที่ฉันอยากทำ” ฉันทำมันได้ดี ยิ่งทุ่มเทเท่าไร ผลสำเร็จก็ยิ่งเห็นชัดมากขึ้น ซึ่งฉันใช้ชีวิตเช่นนี้มา 20 กว่าปี

แล้วคำถามนี้ก็วนเข้ามาในหัวอีกครั้ง ตอนที่ฉันเริ่มไม่รู้สึกตื่นเต้นกับความสำเร็จอีกแล้ว แม้ว่าจะทำงานได้ดีแค่ไหน มีคนชื่นชมมากเพียงใด หรือได้รางวัลจากความสำเร็จหลาย ๆ ครั้ง ในใจกลับไม่รับรู้ถึงความภูมิใจหรืออิ่มใจอย่างที่หนังสือเกี่ยวกับปรัชญาในการดำเนินชีวิตของคนญี่ปุ่น หรืออิคิไก (Ikigai) บอกไว้ ฉันเริ่มสงสัยว่า “ฉันใช้ชีวิตอยู่บนเส้นทางของใครกันแน่”

แต่คราวนี้ฉันไม่เหมือนฉันคนเดิม เพราะฉันเริ่มมีความมั่นคงในอาชีพการงาน มีเงินเดือนที่ไม่อายใคร และไม่ต้องรู้สึกกังวลกับค่าใช้จ่ายแต่ละเดือน ฉันจึงเริ่มจริงจังกับการหาคำตอบ แล้วจะเริ่มจากตรงไหนดี ด้วยความเป็นนักอ่าน ก็ตะลุยอ่านหนังสือเพื่อการค้นหาตัวเอง การเข้าใจตัวเอง หาความหมายของชีวิต ฟังเส้นทางความสำเร็จของบุคคลที่มีชื่อเสียงผ่านพอดแคสต์ (Podcast) และเข้าสัมมนาต่าง ๆ อีกมากมาย

ฉันเริ่มเห็นคำตอบที่น่าจะเป็นไปได้ นั่นคือ การหาต้นแบบ (Role Model) ถ้าชอบใครก็ให้ไปศึกษาชีวิตคนคนนั้น แล้วดาวน์โหลดวิธีคิดและพฤติกรรมมาลองทำตามก็น่าจะพบเส้นทางของตัวเอง ฉันชอบความคิดนี้มากตอนที่เข้าคลาสเพราะเป็นวิธีที่ดูง่ายดี แต่หลังจากนั้นก็มีคำถามใหม่ ๆ เกิดขึ้น เช่น ใครคือต้นแบบของฉัน นอกจากนักร้องที่เป็นไอดอลแล้วก็นึกถึงใครไม่ออกสักคนเลย คุณเป็นกันบ้างไหม เอาล่ะสิ กลับมามืดมนอีกครั้ง จึงต้องเริ่มต้นใหม่ คราวนี้ฉันเริ่มจากตัวเอง ค้นเข้าไปในความเป็นเราว่าอะไรคือสิ่งที่ฉันให้คุณค่า เกิดการเรียนรู้และทดลองหลายวิธี จนในที่สุดก็พบหนทางที่จะพาฉันไปหาคำตอบ นั่นคือ...

เราแต่ละคน ต่างก็เพิ่งเคยใช้ชีวิตบนโลกนี้ครั้งแรก แม้จะมีบางคนที่เชื่อว่า เราเกิดมาหลายชาติภพ แต่เราก็ถูก Set Zero ความจำอยู่ดี แล้วใครจะบอกได้ว่า เราควรใช้ชีวิตอย่างไร ... ถ้าไม่มีใครบอกได้ ก็ลงมือออกแบบและทำทางของเราเองได้เลย และนั่นคือจุดเริ่มต้นในการออกแบบเส้นทางชีวิตของฉันเอง มาถึงตอนนี้ ฉันกำลังเดินและวิ่งอยู่บนเส้นทางชีวิตที่ออกแบบสำหรับฉันเพียงคนเดียวเท่านั้น และได้สอนให้ฉันรู้ว่า “คนธรรมดาก็มีชีวิตที่พิเศษได้เช่นกัน”

แม้ว่าเส้นทางที่ฉันกำลังเดินอยู่นี้จะออกแบบเองกับมือ แต่ก็ไม่ได้โรยด้วยกลีบกุหลาบ เพราะมีเรื่องราวที่เข้ามาท้าทายอยู่เสมอ ใหญ่บ้าง เล็กบ้าง มากบ้าง น้อยบ้าง บางทีมาพร้อมกันทุกขนาด แต่ข้อดีของการมีเส้นทางของตัวเอง ทำให้รู้ว่าเราจะไปทิศไหน หากจำเป็นต้องหยุด ต้องเลี้ยว ต้องถอยหลัง ก็ยังรู้ว่าต้องเริ่มใหม่ทางไหน

บทเรียนที่อาจเป็นประโยชน์กับคุณ (ทางลัดสำหรับผู้มีเวลาน้อย)
ถ้ามีสิ่งที่อยากบอกกับตัวเอง ก็คงเป็นเรื่องเหล่านี้

  • ซื่อสัตย์กับความรู้สึกของตัวเอง และลองหยุดเพื่อฟังเสียงข้างในตัวเองที่จะบอกอะไรกับเรา แม้กระทั่งเสียง “เอ๊ะ” เพราะเป็นเสียงที่เจตนาดีกับเราอย่างแท้จริง
  • เมื่อมีคำถามเกิดขึ้น จงลุกขึ้นหาคำตอบนั้น เพราะนั่นคือจิตใต้สำนึกที่พยายามส่งเสียงเตือนว่า เรากำลังใช้ชีวิตที่ไม่สอดคล้องกับความเป็นตัวเรา
  • อย่าให้อำนาจกับคนอื่นในการกำหนดชีวิตเราด้วยคุณค่าที่เขายึดถือ มีเพียงตัวเราเท่านั้นที่จะมีอำนาจในการออกแบบเส้นทางชีวิตของตัวเองที่สอดคล้องกับคุณค่าที่เรากำหนด
  • ขอบคุณตัวเอง ที่อย่างน้อยก็ได้ลุกขึ้นมา และมุ่งมั่นในการตอบคำถามที่ทำให้มีชีวิตที่ดีในวันนี้
     

ฉันอยากแบ่งปันประสบการณ์และหนทางในการออกแบบชีวิตที่ฉันได้ฟังจากคนอื่น ๆ และได้พาคนเหล่านั้นไปค้นหา ที่สำคัญคือ ฉันได้ลองทำกับชีวิตของฉันเอง เป็นการทำที่มีขั้นตอนและเข้าใจได้ง่าย เผื่อว่าคนที่มีคำถามเช่นเดียวกับฉันจะไม่ต้องใช้เวลามากนัก

หนังสือเล่มนี้จะแบ่งปันเครื่องมือที่ใช้สำรวจชีวิตของเรา เรียนรู้แนวทางในการออกแบบชีวิต รวมทั้งการตัดสินใจเลือกทางเลือกต่าง ๆ หรือเมื่อต้องเผชิญกับความท้าทายที่เข้ามาในชีวิต เพื่อไปสู่การมีชีวิตที่ดีและชีวิตที่แสนจะกลมกล่อมในแบบของเรา ฉันใช้วิธีถอดเหตุการณ์ มุมมองความคิด เพื่ออธิบายอย่างเป็นขั้นตอน ในแต่ละบทจะรวบรวมบทเรียนที่อาจเป็นประโยชน์สำหรับคนที่ไม่มีเวลาอ่าน

เมื่อเราทุกคนต่างก็ใช้ชีวิตเป็นครั้งแรก จึงไม่มีใครรู้ว่า “ชีวิตที่ดี แท้จริงแล้วเป็นอย่างไร” เราจึงไม่ควรตัดสินชีวิตของใครว่าดีหรือไม่ดี ในทางกลับกัน คนอื่นก็ไม่มีอำนาจในการตัดสินชีวิตเราเช่นกัน มีแต่เราเท่านั้นที่จะตัดสินใจเลือกใช้ชีวิตที่ดีในแบบของเราเอง ถ้าคุณพร้อมแล้ว มาเริ่มออกแบบชีวิตกันเถอะ ...


“การจะมีชีวิตที่ดี
ไม่ได้เริ่มต้นจากการนั่งดูว่าคนอื่นมีชีวิตอย่างไร
แต่เริ่มจากตัวเรา ว่าเราอยากมีชีวิตที่ดีอย่างไร”

นก อรนิภา นิยมสถาปัตย์


การศึกษาและการอบรม

  • ปริญญาตรี เกษตร มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์
  • ปริญญาโท สถิติ สถาบันพัฒนบริหารศาสนศาสตร์ (นิด้า)
  • ปริญญาโท การจัดการการบิน จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย
  • The Professional Qualification Level 4 : HR Professional (Organization Development) จากสถาบันคุณวุฒิวิชาชีพ ประเทศไทย
  • Associate Certifies Coach (ACC) จาก The International Coach Federation (ICF)
  • Gallup-Certified Strengths Coach จาก GALLUP
  • Master Practitioner of Neuro-Linguistic Programming จาก Max Potentials
  • Nutrition Masterclass จาก Fit-D Fitness

ประสบการณ์ทำงาน

  • เป็นมนุษย์เงินเดือน ในหน่วยงานรัฐวิสาหกิจ รับผิดชอบด้านกลยุทธ์การบริหารทรัพยากรบุคคล และงานพัฒนาองค์กร (ด้านทรัพยากรบุคคล) มากกว่า 25 ปี
  • โค้ช (Well-being Coach)
  • เป็นผู้ออกแบบหลักสูตรและวิทยากรในคลาสเกี่ยวกับ
    o การส่งเสริมวัฒนธรรมองค์กร (Corporate Culture)
    o การยกระดับความผูกพันต่อองค์กร (Employee Engagement)
    o การวางแผนกลยุทธ์ด้านการบริหารทรัพยากรบุคคล (Human Resource Management Strategic Planning)
    o การพัฒนาตัวเองจากภายใน การออกแบบชีวิตที่อยากได้ การค้นหาคุณค่าในตัวเอง การพัฒนาผู้นำและทีมงาน
    o การดูแลสุขภาพแบบองค์รวม (Wellness of Life)

งานอดิเรกที่ชื่นชอบ

รักการอ่าน ชอบท่องเที่ยว ชอบรับประทานอาหารที่แม่ทำ ชอบออกกำลังกายและออกแบบการดูแลโภชนาการ ชอบคิด ชอบออกแบบหลักสูตร ชอบเขียน และรักการเรียนรู้ และยังมีสิ่งที่อาจชื่นชอบอีกมากมายที่ยังไม่รู้

ข้อมูลติดต่อ
Facebook Page : Be There For Success
Line ID : @Bethereforsuccess
IG : Be There For Success
E-mail : bethereforsuccess@gmail.com
Powered by MakeWebEasy.com
เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพและประสบการณ์ที่ดีในการใช้งานเว็บไซต์ของท่าน ท่านสามารถอ่านรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว  และ  นโยบายคุกกี้