585 จำนวนผู้เข้าชม |
ในช่วงเทศกาลงานหนังสือช่วงปลายปีนี้ เราจะเห็นว่าวงการหนังสือมีความคึกคัก
เพราะเป็นช่วงที่นักเขียนหลาย ๆ ท่าน จะมีการนำเสนอผลงานใหม่ ออกสู่โลกแห่งการอ่านกันอย่างมากในช่วงนี้
ซึ่งหากว่ากันจริง ๆ แล้ว ฤดูการออกผลงานหนังสือ โดยส่วนมากก็จะล้อไปกับการจัดงานหนังสือประจำปี ซึ่งภายใน 1 ปี จะมีการจัดอยู่ประมาณ 2 ครั้ง ในช่วงต้นปี ที่เรารู้จักกันในชื่อว่า งานสัปดาห์หนังสือแห่งชาติ และช่วงปลายปี ในนามงานมหกรรมหนังสือระดับชาติ ซึ่งถือเป็นงานใหญ่ทั้งสองงานค่ะ
หนังสือก็จะถูกตีพิมพ์ เข้าสู่ตลาดกันมากในช่วงต้นปี และปลายปี แต่ก็มีหนังสือที่ตีพิมพ์ตามฤกษ์สะดวก ก็ไม่น้อยนะคะ
สำหรับวันนี้ วิชจะมาขอแบ่งปันข้อมูลสำหรับมือใหม่ในการออกหนังสือว่า หากคุณมีผลงานหนังสือของตนเองสักเล่มได้สำเร็จแล้ว ซึ่งก็ขอชื่นชมและถือว่ายอดเยี่ยมมาก ๆ ค่ะ ในลำดับต่อไปของการวางแผน คือ การเตรียมข้อมูลและเตรียมแผนประชาสัมพันธ์หนังสือ ให้เป็นที่รู้จักด้วย ซึ่งแน่นอนค่ะว่า ปัจจุบันมีหนังสือออกใหม่แทบจะทุกเดือน และเดือน ๆ หนึ่งก็หลายปก (คลังของสายส่งไม่มีวันไหนเงียบเหงานะคะ) จึงเห็นได้ว่า หากหนังสือที่ถูกตีพิมพ์ออกมาแล้วไม่มีการทำตลาด หรือประชาสัมพันธ์ใด ๆ เลย โอกาสที่คนจะรู้จัก และสนับสนุนหนังสือเล่มนั้น ก็เป็นไปได้ยากมาก นั่นย่อมหมายถึง ยอดขายที่น้อยลงเช่นกัน
ผู้มีผลงานหนังสือในปัจจุบันส่วนหนึ่งจะเป็นผู้ที่มีฐานแฟนคลับ มียอดผู้ติดตามในเพจหลักหมื่นหลักแสน ซึ่งเมื่อผลงานหนังสือปรากฏแล้ว แน่นอนว่าย่อมต้องสื่อสารให้เหล่าบรรดาแฟนคลับได้ทราบเพื่อการติดตามและสนับสนุนกันต่อไป แต่หากเจ้าของผลงานหนังสือใหม่ท่านนั้น ไม่มีฐานแฟนคลับ ไม่มีชื่อเสียง ควรจะทำอย่างไร ให้หนังสือได้มีโอกาสสื่อสารสู่สังคมและสร้างการรับรู้ได้ วันนี้วิช มีเกร็ดเล็ก ๆ มาบอกค่ะ
1.ก่อนออกหนังสือควรวางแผนสร้างฐานแฟนคลับให้มีผู้ติดตาม มีผู้สนใจในเรื่องราวที่เราจะเขียนในระดับหนึ่ง
2.ส่งข่าวสารการออกหนังสือ ให้กับเครือข่ายเพื่อน หรือเครือข่ายที่สามารถช่วยขยายความให้คนหมู่กว้างได้รู้จักหนังสือเล่มนี้ ในยุค Social การสร้างกลุ่มผู้สนใจและผู้สนับสนุนเป็นเรื่องจำเป็นค่ะ
3. วางแผนทำการตลาด ทำ Content หนังสือ ในช่องทางต่าง ๆ เพื่อการประชาสัมพันธ์หนังสือ
4.เขียนข้อมูลและรายละเอียดหนังสือ และแนบจดหมายขอพื้นที่ประชาสัมพันธ์ไปยังสื่อมวลชนที่มีพื้นที่เรื่องการแนะนำหนังสือ
5.นำเสนอตนเองเพื่อเผยแพร่ความรู้ดี ๆ จากหนังสือ ยังสื่อต่าง ๆ ที่มีเนื้อหาที่สอดคล้องกับหนังสือ ซึ่งก็จะเป็นประโยชน์ต่อผู้ฟัง ให้ได้รับสารที่เป็นประโยชน์จากผู้รู้ ซึ่งก็คือ ผู้เขียนหนังสือนั่นเอง
6.เสนอเข้าร่วมกิจกรรมแจกหนังสือกับช่องทางต่าง ๆ ที่เห็นว่าเป็นช่องทางเดียวกัน ก็จะทำให้หนังสือได้รับรู้ในวงกว้าง
7.จัดทำสื่อ เพื่อเสนอความน่าสนใจในเนื้อหา ในรูปแบบและช่องทางต่าง ๆ เพื่อขยายการรับรู้
ทั้งหมดนี้ก็เป็นสาระเป็นเกร็ดความรู้ ที่ผู้เขียนหนังสือ พึงได้รับรู้เพื่อวางแผนในการเตรียมสร้างการรับรู้ หลังจากหนังสือได้ถูกตีพิมพ์ เพื่อสร้างกลุ่มผู้อ่านที่มากขึ้น อันจะเป็นประโยชน์อย่างยิ่งต่อหนังสือ แน่นอนค่ะ