หนังสือ บุญที่เกิดจากใจกับหลวงตาม้า

          พระอาจารย์วรงคต วิริยธโร แห่งวัดพุทธพรหมปัญโญ หรือวัดถ้ำเมืองนะ จังหวัดเชียงใหม่ เป็นที่รู้จักกันในนามว่า หลวงตาม้า เป็นพระสุปฏิปันโนของภาคเหนือ ที่มีลูกศิษย์ลูกหาเคารพนับถือศรัทธามากมาย

          หลวงตาม้าสอนลูกศิษย์ลูกหาตามแนวทางที่ได้รับการถ่ายทอดจากหลวงปู่ดู่ ท่านยกครูบาอาจารย์เป็นที่สุด เมื่อลูกศิษย์มีความข้องใจใคร่รู้เรื่องการปฏิบัติหรือธรรมะอย่างใด หลวงตาม้าจะยกคำสอนของหลวงปู่ดู่มาถ่ายทอดเสมอ และให้ลูกศิษย์ปฏิบัติโดยน้อมระลึกถึงบารมีจักรพรรดิ บารมีของหลวงปู่ดู่ และสวดพระคาถามหาจักรพรรดิที่รจนาโดยหลวงปู่ดู่ พรหมปัญโญ

          บทธรรมคำสอนของ พระอาจารย์วรงคต วิริยธโร หรือ หลวงตาม้า จึงเป็นบทธรรมคำสอนแผ่อานิสงส์ผลบุญมาสู่ผู้ปฏิบัติ จนเกิดปรากฏการณ์ของการสวดมนต์บทพระมหาจักรพรรดิอย่างขยายวงกว้าง ด้วยเมื่อจิตสงบ แผ่บุญกุศลไปไกล ความสงบเย็นจึงเป็นของผู้สวด และแผ่กระแสแห่งความเมตตาไปสู่สังคมและคนรอบข้าง นำมาซึ่งผลลัพธ์ที่ส่งผลดีต่อการใช้ชีวิต

          ในยามที่สังคมเปี่ยมไปด้วยกระแสแห่งการเปลี่ยนแปลง ปัญหาและอุปสรรค จนบางครั้งคนเราอาจจะหาหลักยึดเหนี่ยวจิตใจได้ยากยิ่ง การสวดมนต์ แผ่เมตตา และดำเนินชีวิตตามคำสอนของหลวงตาม้า ก็น่าจะเป็นทางแห่งกุศลที่สามารถสร้างขึ้นได้ง่าย

          หนังสือ “บุญที่เกิดจากใจกับหลวงตาม้า” เรียบเรียงจากคติธรรม คำสอน ที่ พระอาจารย์วรงคต วิริยธโร หรือ หลวงตาม้า เมตตาบรรยายและไขความกระจ่างแก่ลูกศิษย์ในโอกาสต่าง ๆ รวมถึงเนื้อหาและลำดับขั้นตอนในการสวดพระคาถามหาจักรพรรดิที่มีพลังครอบจักรวาล เพื่อให้ผู้สวดได้มีสติ มีปัญญาในการพิจารณาคำพูดและการกระทำ สามารถดำรงตนได้อย่างแยบคาย มีศักยภาพในการพิจารณาในสิ่งที่ถูกที่ควร อันเป็นวิถีปฏิบัติของชาวพุทธ ที่ครองความมีสติได้ตลอดทั้งวัน เพื่อหลีกเลี่ยงความผิดพลาดอันเกิดจากการกระทำอันขาดสติได้

          หนังสือ "บุญที่เกิดจากใจกับหลวงตาม้า" จัดพิมพ์ในขนาดรูปเล่มกระทัดรัด พิมพ์สี่สีทั้งเล่ม จำหน่ายในราคา ๒๙ บาท ณ ร้านเซเว่นอิเลฟเว่น หรือ สั่งซื้อผ่าน ALL ONLINE จ่ายและรับสินค้าที่ร้าน เซเว่นอีเลฟเว่น ทั่วประเทศ ฟรี! รายได้ส่วนหนึ่งจากการจำหน่ายหนังสือร่วมสมทบทุนโครงการสร้างพระในดำริของหลวงตาม้า หล่อพระมหาจักรพรรดิ หน้าตัก ๔ ศอก (เนื้อปูน) เพื่อถวายให้กับวัดหรือสถานธรรมที่ขาดแคลนพระ และโครงการ “สร้างสถานสวดมนต์ทั่วประเทศ” การสร้างสถานสวดมนต์ ถือเป็นการสร้างบุญอันยิ่งใหญ่ เพื่อให้ผู้คนมีที่ยึดเหนี่ยวจิตใจ

-----------------------
หนังสือ : บุญที่เกิดจากใจกับหลวงตาม้า
ผลงานโดย : พระอาจารย์วรงคต วิริยธโร (หลวงตาม้า)
ราคา : 29 บาท
มีวางจำหน่ายที่ 7-11 หรือสั่งซื้อออนไลน์ได้ที่
https://www.allonline.7eleven.co.th/p/new/562271

พระวรงคต วิริยธโร (หลวงตาม้า) มีนามจริงว่า วรงคต สุวรรณคุณ เกิดเมื่อวันที่ ๒๓ พฤศจิกายน พ.ศ. ๒๔๘๗ ที่อำเภอวานรนิวาส จังหวัดสกลนคร บิดาและมารดาชื่อ วันดี-โสภา สุวรรณคุณ หลวงตาม้าเป็นบุตรคนที่ ๒ ในจำนวนพี่น้อง ๓ คน เมื่อยังเล็กอยู่นั้น มารดาได้นำไปฝากให้ยายเลี้ยงดู จึงมีโอกาสและคุ้นเคยกับการเข้าวัดตั้งแต่เด็ก

ต่อมา หลวงตาม้าเดินทางเข้ามาอยู่ที่กรุงเทพฯ เป็นเด็กวัดอยู่ที่วัดเบญจมบพิตร เมื่อจบการศึกษาแล้วได้ทำงานที่ธนาคารกสิกรไทย สำนักงานใหญ่ ในช่วงที่ทำงานอยู่นี้เอง เพื่อนคนหนึ่งได้ไปบวชที่วัดสะแก จังหวัดพระนครศรีอยุธยา จึงได้ไปร่วมงานบวชด้วย ได้พบกับหลวงปู่ดู่ พรหมปัญโญ เป็นครั้งแรก เมื่อประมาณ พ.ศ. ๒๕๑๙-๒๕๒๐ นับแต่นั้นเป็นต้นมา หลวงตาม้าได้ไปศึกษาแนวทางการปฏิบัติธรรมกับหลวงปู่ดู่ เป็นเวลากว่าสิบปี และมีความรู้สึกอยากบวชมาตลอด

ใน พ.ศ. ๒๕๓๑ ได้อุปสมบทเป็นพระภิกษุสงฆ์ ณ วัดพุทไธศวรรย์ จังหวัดพระนครศรีอยุธยา โดยมีพระครูภัทรกิจโสภณ (หลวงพ่อหวล) เป็นพระอุปัชฌาย์ ได้รับฉายาว่า “วิริยธโร”

ขณะที่จำพรรษาอยู่วัดพุทไธศวรรย์นั้น หลวงพ่อหวล นอกจากจะถ่ายทอดธรรมะปฏิบัติให้แล้ว ยังได้ถ่ายทอดวิชาต่าง ๆ สายหลวงพ่อเทียม วัดกษัตราธิราช และวิชาเหล็กไหลจากสายหลวงพ่อเดิม วัดหนองโพ ให้กับหลวงตาม้าด้วย แต่หลวงตาก็ไม่ขอเรียน เพราะท่านสนใจแต่การปฏิบัติตามแนวทางของหลวงปู่ดู่ พรหมปัญโญ เพียงองค์เดียวเท่านั้น

หลังจากนั้น หลวงตาม้าจึงออกจาริกธุดงค์ไปยังจังหวัดเชียงใหม่ กำหนดจิตตามหาสถานที่ที่มีกระแสพลังงานเกี่ยวเนื่องกับหลวงปู่ดู่ไปเรื่อย ๆ จนพบกับถ้ำเมืองนะ เมื่อกำหนดจิตดูก็พบว่าใต้ถ้ำแห่งนี้มีความเกี่ยวเนื่องกับหลวงปู่ทวดและหลวงปู่ดู่ จึงตัดสินใจอยู่ปฏิบัติธรรมที่ถ้ำเมืองนะแห่งนี้เรื่อยมา

เมื่อหลวงปู่ดู่มรณภาพลงใน พ.ศ. ๒๕๓๓ หลวงตาม้าจึงออกจากถ้ำมาร่วมงานพระราชทานเพลิงศพใน พ.ศ. ๒๕๓๔ หลังจากนั้นเป็นต้นมา หลวงตาม้า วิริยธโร ได้ปฏิบัติธรรมและทำหน้าที่เผยแพร่พระศาสนาตามแนวทางของหลวงปู่ดู่ พรหมปัญโญ พร้อมทั้งสร้างพระเครื่องรุ่นต่าง ๆ ให้พุทธศาสนิกชนบูชา เพื่อเป็นหลักสำคัญในการยึดเหนี่ยวจิตใจในการประกอบสัมมาชีพจนถึงปัจจุบัน